บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อการอยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 เป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินเพื่อขายเป็นหลัก จวบจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 47 ปี บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการเพื่ออยู่อาศัยและส่งมอบบ้านแก่ผู้ซื้อแล้วกว่า6,000 หน่วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทให้เช่า โดยร่วมทุนพัฒนาศูนย์การค้าชุมชน ได้แก่ ศูนย์การค้าเพียวเพลส (Pure Place Community Mall) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่หน้าโครงการบ้านสัมมากรรังสิต คลอง 2 โครงการบ้านสัมมากรบางกะปิ และโครงการบ้านสัมมากรราชพฤกษ์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่โครงการ และสร้างเครือข่ายชุมชนให้มีความสะดวกสบายในการพักอาศัย และสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ทรัพย์สินที่ลูกค้าได้ซื้อและครอบครองไว้ สมกับปณิธานของบริษัทฯ ที่ว่า “เราไม่เพียงสร้างบ้าน แต่เราสร้างสังคม” อีกทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ในระยะยาวให้มีความผันผวนน้อยลง รวมทั้งส่งเสริมทางการขายบ้านจัดสรรของบริษัทฯ อีกทางหนึ่งด้วย
รายได้หลักของบริษัทฯมาจากการจำหน่ายโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยเป็นหลัก โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ โครงการแนวสูง และโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเช่า ในปี พ.ศ. 2559 บริษัทฯ ได้ปิดการขายรวม 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสัมมากร มีนบุรี 2 โครงการสัมมากร นิมิตใหม่ และได้เริ่มเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ใน 3 ทำเล ทำให้ในปี 2560 บริษัทฯ มีโครงการหลักที่สร้างรายได้ทั้งหมด 5 โครงการ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสัมมากร ชัยพฤกษ์-วงแหวน โครงการสัมมากร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ บนถนนชัยพฤกษ์ตัดใหม่ และโครงการสัมมากร ไพรม์ 7 ซึ่งเป็นส่วนด้านหน้าของโครงการสัมมา-กร รังสิต คลอง 7 เดิม โครงการทาวน์โฮม 1 โครงการ ได้แก่ โครงการสัมมากร อเวนิว รามอินทรา-วงแหวน บนถนนคู้บอนใกล้ห้างสรรพสินค้า แฟชั่นไอส์แลนด์ และโครงการสัมมากร เอสเก้า คอนโดมิเนียม บนถนนรัตนาธิเบศร์ บริษัทฯ ยังคงเน้นพัฒนาโครงการบนพื้นที่ในบริเวณใกล้กับถนนสายที่เป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิเช่น รถไฟฟ้า ทางด่วน เป็นต้น
บริษัทฯ มีนโยบายในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยเพื่อจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 ยังคงอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี โดยมีเป้าหมายและนโยบายหลัก ๆ ดังนี้:-
ในปี 2560 บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านบุคลากรและระบบปฏิบัติการ เพื่อให้บริษัทฯสามารถทำงานได้อย่างทัดเทียมกับบริษัทชั้นนำในตลาด โดยกำหนดเป้าหมายให้บุคลากรของบริษัทมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลักในการทำงาน บริษัทฯได้เตรียมความพร้อมในด้านโปรแกรมฝึกอบรมให้แก่บุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรมีความเข้าใจในแนวทางการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ ในทิศทางเดียวกัน และยังส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือร่วมใจในการทำงานของบุคลากรทุกหน่วยงาน ในขณะที่ระบบปฏิบัติการที่บริษัทฯ จะนำมาประยุกต์ใช้จะต้องส่งเสริมให้เกิดความรวดเร็วและถูกต้องในการทำงานระหว่างฝ่ายมากยิ่งขึ้น
โครงสร้างรายได้ ของบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งในปี 2559 มีสัดส่วนร้อยละ 78.48 ของรายได้รวม นอกจากนั้นก็มีรายได้จากการบริการ รายได้จากการให้เช่า และรายได้อื่น โครงสร้างรายได้ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมามีสัดส่วนดังนี้
โครงสร้างรายได้เปรียบเทียบ 3 ปี
(หน่วย : ล้านบาท)
ประเภทรายได้ | 2557 | 2558 | 2559 | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จำนวนเงิน | สัดส่วน% | จำนวนเงิน | สัดส่วน% | จำนวนเงิน | สัดส่วน% | |
รายได้จากการขายบ้านและที่ดิน | 903.38 | 89.64% | 898.79 | 65.61% | 703.66 | 62.55% |
รายได้จากการขายห้องชุด | - | - | 353.97 | 25.84% | 179.16 | 15.93% |
รายได้จากการให้เช่า | 47.29 | 4.69% | 51.42 | 3.75% | 67.46 | 5.99% |
รายได้ค่าบริการ | 49.85 | 4.95% | 52.17 | 3.81% | 55.30 | 4.92% |
รายได้จากการรับโอนอาคารให้เช่า | - | - | - | - | 79.62 | 7.08% |
รายได้อื่นๆ | 7.28 | 0.72% | 13.49 | 0.99% | 39.68 | 3.53% |
รวมรายได้ | 1,007.80 | 100.00% | 1,369.85 | 100.00% | 1,124.89 | 100.00% |
บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในนโยบายจัดสรรโครงการบนทำเลที่ดีที่สุด และพัฒนาสินค้าให้ตรงกับกลุ่มที่มีกำลังซื้อหลักในทำเลนั้นๆ นอกจากนั้นบริษัทฯ จะเน้นการสร้างสังคมภายในโครงการให้มีระเบียบของการอยู่อาศัยร่วมกัน เพื่อก่อให้เกิดชุมชนและสังคมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง
ผลตอบรับของตลาดในปี พ.ศ. 2559 พบว่าแบรนด์ “สัมมากร” ได้รับความนิยมและจดจำจากกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น และมีผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นเพิ่มมากด้วย โดยจะเห็นได้จากจำนวนโครงการที่ปิดการขายลง และโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายรุ่นใหม่ที่ให้การต้อนรับที่ดีต่อโครงการทาวน์โฮม สัมมา-กร อเวนิว นอกจากนั้นแบรนด์ “สัมมากร” ยังถูกจดจำถึงคุณค่าของแบรนด์ที่ส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแผนธุรกิจในปี พ.ศ. 2560 ที่มุ่งเน้นการส่งมอบบ้านที่มีคุณภาพ และการเพิ่มและพัฒนาหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพ และบริการหลังการขาย ที่จะนำมาซึ่งการแนะนำจากลูกค้าสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ทำให้บริษัทฯ มียอดรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มายาวนาน มีความรู้และมีความเข้าใจในธุรกิจเป็นอย่างดี ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จึงเติบโตและมีกำไรอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ผลการดำเนินงานส่วนใหญ่ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ ยกเว้นกรณีมีปัจจัยที่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหานโยบายของสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งสวนทางกับจำนวนอุปทานที่ยังมีอยู่มากในตลาด อาจเป็นเหตุให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินงานให้สำเร็จตามแผนหรือตามเป้าหมายที่วางไว้